ข้อเข่าเสื่อม ระวัง! ต้องรีบรักษาและฟื้นฟูอย่างถูกวิธี ก่อนจะสายเกินไป

ข้อเข่าเสื่อม รักษา อย่างถูกวิธีให้หายได้อย่างไร

ข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคข้อเข่า ที่พบได้บ่อย ในผู้สูงอายุ โดยที่กระดูกของข้อเข่า เริ่มเสื่อมลง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวด เมื่อเคลื่อนไหว และอาจทำให้การเดินของผู้ป่วย ผิดปกติได้ ดังนั้นใครที่มีอาการปวดบริเวณข้อเข่าอยู่ อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณเป็น โรคข้อเข่าเสื่อม ดังนั้นควรมีวิธีดูแลรักษาอย่างถูกต้อง 

ทั้งนี้ คุณควรรู้สาเหตุของโรคนี้ ที่มาจากหลายปัจจัย เช่น การเสื่อมสภาพของผิวข้อตามกาลเวลา ทานอาหาร ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หรืออาหารที่มีโปรตีนสูงเกินไป และยังมีอาการ ปวดข้อเข่า ขณะเคลื่อนไหว ปวดเมื่อกดข้อเข่า หรือมีเสียงดังที่เข่าตอนเคลื่อนไหว หากคุณเคยมีพฤติกรรมเหล่านี้ และทรมานกับอาการที่เป็นอยู่ ควรหยุดและหันมาดูแลสุขภาพเข่าของคุณได้แล้ว

เบื้องต้นการรักษานั้นมีหลายวิธี เช่น การใช้ยาแก้ปวด การทำกายภาพบำบัด เปลี่ยนพฤติกรรมใช้ข้อเข่า เช่น หลีกเลี่ยงการนั่งเป็นเวลานานโดยไม่ได้เคลื่อนไหว ในกรณีที่อาการไม่ดีขึ้น อาจจะต้องทำการผ่าตัดข้อเข่า เพื่อรักษาตามอาการต่อไป

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าการรักษาข้อเข่าเสื่อมไม่สามารถรักษาหายได้แบบสมบูรณ์ แต่สามารถควบคุมอาการ และลดอาการปวดได้ โดยอาจใช้วิธีรักษาหลายวิธีพร้อมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

ข้อเข่าเสื่อม 9 วิธีการรักษาและฟื้นฟู

1. ข้อเข้าเสื่อม ป้องกันด้วยการใช้ยาแก้ปวด

การใช้ยาแก้ปวดเป็นวิธีการรักษาที่พบบ่อยในโรค ข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงอายุ เช่น พาราเซตามอล อะทิคอกซ์ หรือกลุ่มยาต้านการอักเสบ เช่น อินดอร์ซีน แต่จำเป็นต้องใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น

1.1 ยาต้านการอักเสบ (Nonsteroidal Anti-Inflammatory Drugs – NSAIDs) เช่น อะซีโคลฟีนัม อิบุโพรเฟน หรือนัมเบอร์วัน สามารถลดการอักเสบและปวดของข้อเข่าได้

1.2 ยาแก้ปวด (Analgesics) เช่น พาราเซตามอล โคเดนอิน หรือโทรมาดอลสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดของข้อเข่าได้

1.3 ยาคลายกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า (Muscle Relaxants) เช่น เบนโซไพราม สามารถช่วยบรรเทาอาการปวด และคลายกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าได้

1.4 สารสลาย Glucosamine และโคนโดรยูโรนิค (Chondroitin) สามารถช่วยเสริมสร้าง เส้นประสาท และเสริมกระดูกของข้อเข่าได้

2. การทำกายภาพบำบัด ลด ข้อเข่าเสื่อม

การทำกายภาพบำบัด เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและข้อต่อ และช่วยปรับปรุงการเคลื่อนไหวของข้อเข่า ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปวดได้ และให้ประสิทธิภาพการทำกายภาพบำบัดสูงสุด ควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง เช่น การเลือกที่นั่งที่เหมาะสม และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

3. เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ข้อเข่า

เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ข้อเข่า เช่น การลดน้ำหนักจะช่วยลดภาระที่ประสานเข่าต้องรับ และลดการเสียหายบนข้อเข่า การเลือกใช้รองเท้า ที่เหมาะสมจะช่วยลดการกระทบของแรงกลับต่อข้อเข่า และช่วยลดความเจ็บปวด การปรับเปลี่ยนท่าทางการทำกิจกรรม เช่น การเดิน การขึ้นลงบันได และการนั่งขึ้นลงบนเก้าอี้ เพื่อลดการเปราะบางของข้อเข่า หรือการปรับเปลี่ยนการเดินเพื่อลดการเอียงของตัว เป็นวิธีการที่ช่วยลดการแข็งตัวของข้อเข่า และช่วยลดอาการปวดได้

4. การเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกดทับต่อข้อเข่า

การเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกดทับต่อข้อเข่า เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเสียหายและช่วยให้ข้อเข่าเสริมแข็งขึ้น ดังนี้

4.1 การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการยกน้ำหนักหรือออกแรงมากเกินไป เช่น การยกของหนัก การพกกระเป๋าหนัก และการทำงานที่ต้องยืนเป็นเวลานาน

4.2 การเลือกใช้เครื่องมือช่วย เช่น รถเข็นสินค้า เครื่องมือช่วยในการเดิน และอุปกรณ์ช่วยฟื้นฟู เพื่อลดแรงกดทับต่อข้อเข่า

4.3 การปรับเปลี่ยนท่าทางการทำกิจกรรม การปรับเปลี่ยนท่าทางการทำกิจกรรม เช่น การเดิน การขึ้นลงบันได และการนั่งขึ้นลงบนเก้าอี้ เพื่อลดการเปราะบางของข้อเข่า

4.4 การใช้เทคโนโลยีช่วย  เช่น การใช้ลิฟท์ หรือบันไดเลื่อน เพื่อลดแรงกดทับต่อข้อเข่า

4.5 การเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องทำลำบาก  เช่น การตั้งตัวนั่งโดยไม่มีเตียง เพื่อลดแรงกดทับต่อข้อเข่า

4.6 การเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกดทับต่อข้อเข่า เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการรักษา และฟื้นฟูข้อเข่า

ข้อเข่าเสื่อม
ข้อเข่าเสื่อม

5. การออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง ลด ข้อเข่าเสื่อม

การออกกำลังกายแบบต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเสริมสร้างข้อเข่า เพื่อลดความเสียหายและป้องกันการเกิดอาการเข่าเสื่อม ดังนี้

5.1 การเดินเร็ว เดินเร็วเป็นการออกกำลังกาย ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อของขาและข้อเข่า และช่วยเพิ่มความเร็ว และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า

5.2 การวิ่ง วิ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างข้อเข่าให้แข็งแรง โดยเฉพาะในการวิ่งขึ้นเขาหรือขึ้นบันได เพราะจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของข้อเข่าและกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า

5.3 การปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างข้อเข่า โดยเฉพาะในการปั่นจักรยานแบบเร็ว เพราะจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของข้อเข่าและกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า

5.4 การเล่นกีฬา การเล่นกีฬาที่ใช้เข่า เช่น โยคะ และฟิตเนส เป็นวิธีที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเสริมสร้างข้อเข่าได้ดี

6. การใช้อุปกรณ์พยุงเข่าและซัพพอร์ตส่วนต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นแบบผ้าพันหรือแบบสวม จะช่วยป้องกันอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ และข้อต่อของอวัยวะแต่ละส่วน และลดการขยับเขยื้อนของอวัยวะที่เกิดการบาดเจ็บให้น้อยลง ตลอดจนค่อย ๆ ฟื้นฟูให้หายได้

ข้อเข่าเสื่อม

7. การนอนหลับในท่าที่ถูกต้อง ลด ข้อเข่าเสื่อม

เพื่อลดแรงกดทับต่อข้อเข่า การนอนหลับในท่าที่ถูกต้อง จะช่วยลดแรงกดทับต่อข้อเข่า และช่วยลดการเจ็บปวดในข้อเข่าเสื่อม ได้ ดังนี้

7.1 นอนหลับตะแคงข้าง ในการนอนหลับตะแคงข้าง จะช่วยลดแรงกดทับในข้อเข่าเสื่อม และลดการเจ็บปวดในข้อเข่าได้

7.2 ใช้หมอนที่เหมาะสม หมอนที่เหมาะสม คือหมอนที่ไม่เคลื่อนไหว และมีความอ่อนนุ่มเพียงพอ ที่ช่วยลดแรงกดทับในข้อเข่าเสื่อมได้

7.3 หลีกเลี่ยงการนอนหลับตะแคงบนข้างที่มีเข่าเสื่อม หากมีข้อเข่าเสื่อมควรหลีกเลี่ยงการนอนหลับ ตะแคงบนข้าง เนื่องจากจะทำให้เกิดแรงกดทับต่อข้อเข่า

7.4 ตั้งหมอนระหว่างขา การวางหมอนระหว่างขา จะช่วยลดแรงกดทับต่อข้อเข่าเสื่อม และลดการเจ็บปวดในข้อเข่าได้

8. การกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อข้อเข่า ป้องกัน ข้อเข่าเสื่อม

หลายท่านอาจจะกังวลว่า ข้อเข่าเสื่อม กินอะไรดี เรามีคำตอบมาให้ โดยการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อข้อเข่าจะช่วยให้ร่างกายได้รับ สารอาหารที่เพียงพอ และช่วยลดการเจ็บปวดในข้อเข่าได้ ดังนี้

8.1 อาหารที่มีความเป็นไขมันดี  ควรกินอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัว เช่น ไข่ขาว ปลา ถั่วเหลือง และเม็ดมะเขือเทศ เพราะมีไขมันที่ดีต่อร่างกาย ช่วยลดการอักเสบ และการเจ็บปวดในข้อเข่าได้

8.2 อาหารที่มีวิตามิน C ควรกินอาหารที่มีวิตามิน C เช่น ส้ม มะนาว ผักบุ้ง และผักกาดขาว เพราะวิตามิน C ช่วยลดการทำลายของเซลล์ ของต้นขาและช่วยให้ข้อเข่าสมบูรณ์แข็งแรง

8.3 อาหารที่มีโปรตีน ควรกินอาหารที่มีโปรตีน เช่น ปลา ไก่ และเนื้อสัตว์อื่นๆ เพราะโปรตีนช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ช่วยป้องกันการเจ็บปวดในข้อเข่าเสื่อมได้

8.4 อาหารที่มีคอลลาเจน  ควรกินอาหารที่มีคอลลาเจน เช่น ปลาหมึก น่องไก่ และฟันหมากระดูกหมู เพราะคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อที่มีความยืดหยุ่น ช่วยลดการเจ็บปวดในข้อเข่าได้

ข้อเข่าเสื่อม

9. การรักษาโดยวิธีการผ่าตัด

กรณีที่ เข่าเสื่อมมาก และมีอาการปวดรุนแรง ในกรณีที่การรักษาด้วยวิธีการอื่นไม่เพียงพอ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าการรักษาข้อเข่าเสื่อมไม่สามารถรักษาหายได้แบบสมบูรณ์ แต่สามารถควบคุมอาการและลดอาการปวดได้ โดยอาจใช้วิธีรักษาหลายวิธีพร้อมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *